ระบบการลำเลียงวัสดุด้วยแรงลม หรือ Pneumatic Conveying System เป็นระบบที่ใช้แรงดันของอากาศในการเคลื่อนย้ายวัสดุที่เป็นผงหรือเม็ดเล็กๆ เช่น แป้ง เกลือ น้ำตาล แคลเซียมคาร์บอเนต ไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ โดยระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ วันนี้เรานำความรู้เรื่อง ระบบการลำเลียงวัสดุด้วยแรงลม มาฝากกัน

หัวข้อในบทความนี้
ระบบการลำเลียงวัสดุด้วยแรงลม (Pneumatic Conveying System) คืออะไร
Pneumatic Conveying System เป็นระบบการลำเลียงวัสดุที่ใช้แรงดันของอากาศในการเคลื่อนย้ายวัสดุที่เป็นผงหรือเม็ดเล็กๆ เช่น แป้ง เกลือ น้ำตาล แคลเซียมคาร์บอเนต ไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ โดยระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ
การทำงานของระบบการลำเลียงด้วยแรงลม Pneumatic Conveying System
ระบบการลำเลียงวัสดุด้วยแรงลม คือ การขนย้ายวัสดุประเภทที่มีขนาดเล็กและเบา(ส่วนใหญ่เป็นผงและเมล็ด) ไปตามท่อที่มีความดันบวกหรือความดันลบ (Pressure orVacuum) และสามารถขนถ่ายวัสดุได้ปริมาณมาก วัสดุจะเคลื่อนที่แล้วส่งต่อไปยังปลายทางด้วยการเคลื่อนผ่านตามท่อลมที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เก็บวัสดุหรืออาจเก็บด้วยไซโล สามารถลำเลียงวัสดุต้นทางหลายแห่งไปยังปลายทางหลายแห่งได้ โดยไม่สร้างมลภาวะให้กับสภาพแวดล้อมเนื่องจากเป็นระบบปิด
ด้วยรูปแบบของแรงลมที่เกิดขึ้นส่งผลให้วัสดุถูกลำเลียงตามท่อไปยังปลายทางในระหว่างการถูกขนถ่ายตัวท่อที่ใช้ลำเลียงสามารถเป็นได้ทั้งแนวตั้ง แนวดิ่ง,แนวนอน, แนวทำมุม, แนวโค้ง หรือแนวราบเอียง ขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่ติดตั้งแต่ไม่มีผลใด ๆ กับการทำงานทั้งสิ้น

ที่มาภาพ IQSdirectory
ประเภทของการลำเลียงด้วยลม Pneumatic conveying
สำหรับระบบ Pneumatic conveying หรือการลำเลียงด้วยแรงลมจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ประกอบไปด้วย
1. Dense Phase Conveying System (DENSE PHASE)
เป็นลักษณะการขนถ่ายด้วยระบบการไหลแบบหนาแน่นวัสดุจะไหลไปตามท่อ โดยมีลักษณะเป็นท่อนช่วงๆ ที่ไม่ต่อเนื่อง ระบบจะลำเลียงขนส่งวัสดุตามท่อไปยังอุปกรณ์จัดเก็บหรือส่งไปยังไซโลซึ่งแยกวัสดุก่อนเข้าสู่ประเภทของบรรจุภัณฑ์หรือการผลิต หรืออุปกรณ์จัดเก็บที่แยกออกอย่างเหมาะสมมีปริมาณอากาศน้อย ที่ความดันสูง ความเร็วจึงไม่สูงมาก
2. Dilute Phase Conveying System (DILUTE PHASE)
เป็นลักษณะการขนถ่ายด้วยระบบการไหลแบบบางเบาคือ จะใช้ปริมาณอากาศมากทำให้มีความเร็วในท่อสูง ที่ความดันต่ำ ทำให้ลำเลียงวัสดุในท่อไปยังปลายทางได้เร็วจะมีทั้งแบบ ระบบความดัน(Pressure)และระบบสูญญกาศ(Vacuum) โดยวัสดุนั้นจะลอยไปกับแรงลมในท่อสามารถลำเลียงวัสดุต้นทางหลายแห่งไปยังปลายทางหลายแห่งได้
– ระบบความดัน (Pressure) จะมีถังเก็บวัสดุที่มีตัวจ่ายวัสดุเข้าไปในท่อลำเลียงพร้อมกับมีแหล่งจ่ายลมเป็นตัวจ่ายลมเข้าไปในท่อ ผสมกับวัสดุเพื่อส่งไปยังปลายทางหลายแห่งได้ โดยปลายทางแต่ละแห่งจะมีตัวแยกวัสดุกับอากาศ
– ระบบสูญญกาศ(Vacuum) จะมีแหล่งจ่ายลมอยู่ที่ปลายทางเหมาะกับการขนถ่ายวัสดุจากหลายแหล่งไปยังปลายทางแห่งเดียวเป็นระบบที่ต้องใช้ความเร็วขนถ่ายสูงกว่าระบบความดัน (Pressure) ข้อดีคือไม่มีปํญหาในการจ่ายวัสดุเข้าไปในระบบเพราะในท่อลำเลียงมีความดันต่ำกว่าบรรยากาศ
ข้อดีของการใช้งานระบบการลำเลียงด้วยแรงลม
เหตุผลหลัก ๆ ที่บรรดาโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากซึ่งมีวัสดุจำพวกผงและเมล็ดขนาดเล็กเลือกใช้ Pneumatic conveying system เพราะจะช่วยให้การขนย้ายเป็นเรื่องที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยดังนี้
1. ช่วยให้ความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงานสูงเมื่อเทียบกับระบบขนถ่ายแบบอื่น เพราะไม่ต้องใช้แรงงานคนแบกถุงฯลฯ หรือได้รับอันตรายจากฝุ่นหรือสารพิษอื่น
2. ช่วยทำให้สภาพที่ทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้นเพราะวัสดุอยู่ในท่อมิดชิด ลดการฟุ้งกระจาย และลดเสียงดังขณะขนถ่าย
3. ประหยัดราคาในการสั่งซื้อเนื่องจากไม่ต้องใช้ภาชนะบรรจุ เช่น ถุง กระสอบ ฯลฯ
4. ประหยัดค่าแรงงานในการขนวัสดุเนื่องจากไม่ต้องใช้คนงานในการแบก หรือขน วัสดุ
5. ลดการสูญเสียวัสดุจากการรั่ว หกหรือตกค้างในภาชนะบรรจุ
6. ลดพื้นที่ในการจัดเก็บวัสดุ
7. บำรุงรักษาและควบคุมได้ง่าย เพราะสามารถทำงานด้วยระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ
8. ปรับเปลี่ยนทิศทางการขนถ่ายวัสดุได้ง่ายโดยการเปลี่ยนทิศทางของท่อขนส่งที่สั่งการผ่านระบบอัตโนมัติ
9. ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย

การนำระบบลำเลียงด้วยแรงลมไปใช้งานอุตสาหกรรม
ระบบการลำเลียงด้วยลมถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น
- อุตสาหกรรมอาหาร: ลำเลียงวัตถุดิบ เช่น แป้ง น้ำตาล ผงโกโก้
- อุตสาหกรรมเคมี: ลำเลียงสารเคมี ผงสี และวัตถุดิบอื่นๆ
- อุตสาหกรรมเภสัชกรรม: ลำเลียงผงยา และวัตถุดิบสำหรับผลิตยา
- อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์: ลำเลียงปูนซีเมนต์และวัตถุดิบอื่นๆ
- อุตสาหกรรมพลาสติก: ลำเลียงเม็ดพลาสติกและผงสี