Electromagnetic compatibility หรือ emc test คืออะไร

electromagnetic-compatibility

electromagnetic compatibility หรือ emc test คืออะไร

Emc ย่อมาจากอะไร หรือ electromagnetic compatibility คือ การทดสอบความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า โดยไม่มี EMI มารบกวนต่อสิ่งแวดล้อม และยังทำให้มั่นใจว่าไม่มีการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยแบ่งออกเป็นวงกว้างในการทดสอบปล่อยและการทดสอบความไว

การทดสอบ Emc test คือ มีความสำคัญอย่างไรในอุตสาหกรรมไฟฟ้า

ความสำคัญของ electromagnetic compatibility ถือว่าจำเป็นมากๆในงานอุตสาหกรรมไฟฟ้ารวมถึง ขั้วต่อไฟฟ้าอุตสาหกรรม เพราะทำให้มีผลต่อความเสียรของระบบไฟฟ้า ทำให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น โดยสามารถให้ลำดับความสำคัญได้ตามนี้

ทางด้านกฏหมาย 

ในหลายๆประเทศเริ่มมีการทดสอบมาตราฐาน Emc เพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายของประเทศนั้นๆ เพื่อให้โรงงานผ่านการรองรับระบบ Emc และดำเนินการได้อย่างถูกต้อง

ทางด้านสัญญาณ

เพื่อป้องกันการรบกวนของสัยญาณต่างๆ และปรับปรุงระบบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งมีผลต่อความเสียรและประสิทธิภาพของระบบ

ประหยัดเวลา

การทดสอบ Emc ช่วยลดเวลาการทำงานของระบบ โดยช่วยลดความเสียหายจากสัญญาณ Emi ได้เป็นอย่างมาก

5 ตัวอย่างกระบวนการทดสอบ electromagnetic compatibility

ปัจจุบันมีบริษัทที่รับตรวจสอบ Emc test มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป หรือ อุตสาหกรรม 4.0 วันนี้เราจะมายกตัวอย่าง 5 กระบวนการทดสอบระบบเบื้องต้น ซึ่งหากได้รับการตรวจ emc จริงๆนั้นยังมีอีกมากมายหลายขั้นตอนให้ตรวจสอบ

ภูมิคุ้มกันของสายอากาศต่อแรงดันไฟฟ้า RF

ความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าที่เกิดต่อสัยญาณ RF (Radio Frequency) ปกติแล้วสายอากาศจะมีความทนทานกับแรงดันไฟฟ้า RF เมื่อความยาวสายไม่เกินความยาวครึ่งคลื่นของความถี่ที่กำลังผ่านไปในสายอากาศ

ภูมิคุ้มกันของอินพุตของสายอากาศ

การป้องกันการเข้าสัญญาณจากภายนอกเข้ามาสู่ระบบ โดยอาจจะมีสัยญาณไฟห้าจากอุปกรณ์อื่นๆ เช่น การรบกวนจากคลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็ก หรือสัญญาณที่ไม่พึงประสงค์

ประสิทธิภาพในการคัดกรองของสายอากาศ

เพื่อป้องกันการรบกวน และคงเสถียรภาพของสัญญาณในระบบไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการตัดต่อสายอากาศ ด้วยการเลือกใช้สายที่มีคุณภาพให้ตรงกับระบบ พร้อมกับใช้ตัวกรองบนสายอากาศ

ภูมิคุ้มกันการรบกวนทางสายตัวนำ

การป้องกันการรบกวนที่เกิดจากสัญญาณไฟฟ้าหรือแม่เหล็กภายนอก ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสัญญาณภายในตัวสายที่กำลังส่งไปยังตัวนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สายสัญญาณที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

การปล่อยกระแสฮาร์มอนิก

อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้ในระบบไฟฟ้า เมื่ออุปกรณ์การใช้งานปล่อยไฟฟ้าได้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดความแตกต่างของแรงดันไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เกิดกระแสฮาร์มอนิกที่มีความถี่เป็นเท่าคูณของความถี่กระแสแรงดันที่ไม่สมดุล

ข้อดีของการทำ Emc test คือ อะไร ทำไมจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ

การทดสอบ electromagnetic compatibility เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยในการใช้งาน โดยจะช่วยลดความเสี่ยงของการรบกวนที่อาจเกิดขึ้น การทำ Emc test คือ สิ่งที่ดีที่จะช่วยให้ระบบของเราสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างถูกต้อง และมีคุณภาพ

สรุปการทำ electromagnetic compatibility ในยุคปัจจุบันที่ควรทำอย่างยิ่งสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

ในยุคปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมายเกิดขึ้น ควรที่จะมีการทำ electromagnetic compatibility ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการใช้ระบบไฟฟ้าในโรงงานมีความซับซ้อนและเชื่อมต่อกันหลายจุด ซึ่งจะทำให้เกิดการรบกวนของระบบไฟฟ้า อาจจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้าลดลงได้ ดังนั้นควรทำการทดสอบ emc test อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัย เพื่อตรวจจับและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *